สิ่งที่เรียนรู้และการสังเกต
เปิดเทอมวันแรกรู้สึกตื่นเต้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับวันนี้
คำถามที่ให้เรานำไปคิดก่อนเปิดเทอมว่า ถ้าเกิดเด็กร้องไห้เราจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง
ซึ่งก็ได้คิดและวางแผนพูดคุยกับเพื่อน ก็รู้สึกกลัวกับสิ่งที่คิดไว้ว่าเด็กต้องร้องไห้หลายคนอีกคนก็อาจจะวิ่งออกไปนอกห้อง
แต่สิ่งที่คาดคิดก็ไม่ใช่อย่างที่คิดเลย เด็กร้องไห้ส่วนน้อย 2-3 คน แต่ก็เก็บอาการไว้บอกว่าตัวเองไม่ได้ร้องไห้แค่แสบตา กิจกรรมวันนี้เด็กๆทุกคนให้ความร่วมมือกับคุณครูเป็นอย่างมาก
ทั้งการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมในโรงเรียนการช่วยเหลือตนเองและพบกับคนแปลกหน้าทั้งครูและเพื่อนๆที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
ซึ่งต่างจากที่บ้านเวลาทำอะไรไม่ได้ก็จะมีพ่อแม่คอยช่วยเหลือเขาอยู่เสมอ
รวมทั้งตัวดิฉันเองที่ต้องเริ่มเรียนรู้วิถีการเรียนการสอนการทำงานเพื่อให้ได้ประสบการณ์มากที่สุดและสามารถนำไปใช้ในการออกแบบการสอนและอยู่ร่วมกับเด็กๆได้อย่างมีความสุข
ครูพาเด็กๆเดินปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติรอบบริเวณโรงเรียน
เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับกับโรงเรียน


ครูถามเด็กๆว่าเด็กๆรู้ไหมค่ะว่านี้คืออะไร
เด็กบางคนเขาก็ไม่เคยเห็นเพราะบางหมู่บ้านก็แทบจะไม่มีเด็กบางคนอยู่ในเมืองซื้อข้าวเคยเห็นแค่เม็ดข้าวสาร
แต่เขาไม่รู้ว่าวิธีการแปรรูปจากข้าวเปลือกมาเป็นข้าวสารทำอย่างไร “เด็กๆสนใจมากตอนที่ครูต๋อย
ถามเด็กๆว่าใครอยากรู้ว่าเขากำลังทำอะไร”
หลังจากนั้นก็พาไปเยี่ยมบ้านของพี่หมู
การเรียนรู้ของเด็กเกิดจากการตั้งคำถามของครู
“ทำไม…………….เพราะอะไร
การเดินกำกับสิติจากการเดินตามรายเท้า เป็นการกำกับสติ
เด็กๆก็จะช่วยเหลือตนเอง
การใส่ถุงเท้า รองเท้า ใส่เสื้อผ้าติดกระดุมเสื้อ เด็กบางคนก็จะพยายามใส่ให้ได้
บางคนก็ได้รับการฝึกมาก่อน
แต่เจอเด็กคนหนึ่งซึ่งเขาจะใส่เสื้อผ้าเองไม่ได้พอครูให้เขาพยายามทำเขาก็พูดออกมาว่า
หนูจะไปหาพ่อกับแม่ ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่ได้รับการฝึกหัด พ่อแม่จะทำให้ทุกครั้งพอมาถึงโรงเรียนเขาก็ทำไม่ได้
ไม่รู้จักข้าวของตนเอง
กิจกรรมจิตศึกษา
เด็กๆยังไม่นิ่งพอเพราะเขากำลังเริ่มเรียนรู้ว่าครูกำลังพาเขาทำอะไรอยู่
แต่ก็ถือว่าเด็กนิ่งยิ่งตอนจุดเทียนแล้วส่งต่อเด็กๆจะตั้งใจมากและคอยให้กำลังลังใจเพื่อนไม่ให้เทียนดับ


เด็กได้ลงมือปฏิบัติเอง เพื่อให้เขารู้หน้าที่ของตนเองและมีความรับผิดชอบ
เด็กๆรับประทานอาหารเด็กบางคนก็กินยากไม่ชอบกินผัก
น้ำพริกหรืออาหารพื้นบ้านซึ่งที่บ้านเขาอาจจะไม่ให้ลูกๆกินแบบนี้
เด็กส่วนใหญ่ก็กินได้ ประมาณ 2-3 คนที่ไม่กินผัก จับออกเขี่ยทิ้ง
แต่บางคนก็เติมอาหารเพิ่ม
วันที่ 15 พฤษภาคม 2558
วันที่ 2 คิดไว้แล้วว่าเด็กต้องร้องไห้เยอะกว่าวันแรกแน่ๆ สุดท้ายก็เป็นจริง อาจเป็นเพราะว่าวันแรกเขารู้แล้วว่าเป็นอย่างไรวันต่อมาอาจคิดว่ามันยาก แต่พอซักพักเขาก็เริ่มชินกับสถานที่ เช่น ห้องเรียนของตนเอง ห้องน้ำ ห้องครัว สนามเด็กเล่น และที่ต่างๆ ประทับใจมากเด็กๆเปิดเทอมแค่ 2 วันแต่เขาเริ่มปรับตัว การช่วยเหลือตนเอง ใส่เสื้อผ้า ปูที่นอน และเริ่มพูดคุยสนทนากับครูมากขึ้น เริ่มเล่นกับเพื่อนๆทั้งตอนเล่นเครื่องเล่นสนามตอนเช้า และมุมของเล่นต่างๆ การทำกิจกรรมจิตศึกษา ครูนิ่มพาทำกิจกรรมจุดเทียนและยกให้กับเพื่อนคนอื่นต่อไปโดยการไหว้ทุกครั้งก่อนการรับและส่ง เด็กๆทุกคนนิ่งพร้อมรอของวิเศษสิ่งนั้น
เด็กๆเตรียมตัวเข้าแถว
ครูก็งงว่าทำไมครูบอกเด็กๆว่า อนุบาล 5 นาที แล้วก็เห็นเด็กๆวิ่งไปเข้าแถว
เหลือแต่น้องอนุบาล 1 ยังไม่รู้ว่าพี่ๆไปไหนกัน
ครูก็เลยบอกน้องเด็กๆค่ะ อนุบาล 5 นาทีหมดเวลาแล้ว
เพื่อให้เขาได้รู้ว่า เวลาครูเลือกเด็กๆในครั้งต่อไป
เด็กบางคนเริ่มที่จะเล่นกับเพื่อนๆ วิ่งไล่จับมีความสุขกับการเล่นทราย
และรู้จักแบ่งปันของเล่น อุปกรณ์ของเล่นก็มีไม่มากนักส่วนใหญ่ก็จะเป็น กะลามะพร้าว
ป้องไม้ไผ ตระแกรง ไม่มีของเล่นพลาสติกที่ขายตามตลาด
ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นและหาง่ายเท่าที่มี
ดีมากค่ะ
ตอบลบ